โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง

โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายบุหรี่สำเร็จรูป ปัจจุบันผลิตบุหรี่ทั้งสิ้น 18 ตรา และเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐสูงเป็นลำดับที่ 6 ของรัฐวิสาหกิจไทย มูลค่ากว่า 8,927.00 ล้านบาท (พ.ศ. 2557)

ประวัติ

ในช่วงปี พ.ศ. 2482 รัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายที่จะดำเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบ โดยพลตรี หลวงชำนาญยุทธศิลป์ เริ่มดำเนินการซื้อโรงงานยาสูบไทยของ ห้างหุ้นสุ่วนบูรพายาสูบ จำกัดซึ่งตั้งอยู่บริเวณสะพานเหลือง ถนนพระราม 4 มาดำเนินการภายใต้การควบคุมดูแลของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2482 โดยใช้ชื่อว่า "โรงงานยาสูบไทย สะพานเหลือง" ต่อมาเปลื่อนชื่อเป็น "โรงงานยาสูบสรรพสามิต 2" จากนั้นกิจการได้ขยายตัวมากขึ้น และได้ซื้อกิจการของบริษัท กวางฮก จำกัด บริษัท ฮอฟฟัน จำกัด และโรงงานผลิตบุหรี่ย่านถนนเจริญกรุง พร้อมกับกิจการเพาะใบยาสูบของบริษัท ยาสูบอังกฤษ - อเมริกัน (ไทย) จำกัด เข้ามาสมทบกับโรงงานยาสูบ และใช้ชื่อว่า "โรงงานยาสูบ กรมสรรพสามิต"

กิจการดำเนินมาจนกระทั่งในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา เกิดการกักตุนบุหรี่ และเหตุการณ์ทหารญี่ปุ่นเข้ายึดโรงงานผลิตบุหรี่ย่านถนนเจริญกรุง ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2484 ทำให้กิจการของโรงงานยาสูบต้องหยุดดำเนินการในชั่วระยะหนึ่ง

ในปี พ.ศ. 2485 ได้มีประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมโรงงานอุตสาหกรรมในกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. 2485 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2485^[1] ให้โอนกิจการโรงงานยาสูบ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ไปสังกัดกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จนในปี พ.ศ. 2486 จึงโอนมาสังกัดกรมสรรพสามิตเช่นเดิม และได้มีประกาศพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2485 ให้การประกอบกิจการอุตสาหกรรมซิกาแรต เป็นอุตสาหกรรมผูกขาดของรัฐ แต่ในขณะเดียวกันโรงงานก็ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเป็นอย่างมาก จนถึงในปี พ.ศ. 2488 จึงต้องปิดโรงงานที่สะพานเหลือง และที่ถนนวิทยุ

ในปี พ.ศ. 2491 จึงได้เปิดดำเนินการโรงงานที่สะพานเหลืองอีกครั้งหนึ่ง และได้ดำเนินกิจการก้าวหน้าเป็นลำดับ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2497 จึงได้โอนจากสังกัดกรมสรรพสามิต มาสังกัดกระทรวงการคลังโดยตรง^[2]

ต่อมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ทางกระทรวงการคลังได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... เข้าสู่ที่ประชุมซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและได้ส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้พิจารณาก่อนจะส่งกลับมายังคณะรัฐมนตรีเพื่อจะได้ส่งต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไปโดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้คือยกฐานะโรงงานยาสูบที่เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังขึ้นเป็น การยาสูบแห่งประเทศไทย หรือ ยสท. มีฐานะเป็นนิติบุคคล


แนวข้อสอบ โรงงานยาสูบ   http://thaitobaccoor.blogspot.com/