เหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์อะรีนา พ.ศ. 2560
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.33 น. ตามเวลาฤดูร้อนในอังกฤษ (UTC+01:00)ผู้ก่อเหตุได้จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย โดยเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่เต็มไปด้วยตะปูและสลักเกลียวเป็นสะเก็ดระเบิด บริเวณโถงทางเข้าด้านนอกอาคารแมนเชสเตอร์อะรีนา เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังงานแสดงคอนเสิร์ต เดนเจอรัสวุมันทัวร์ ของอารีอานา กรานเด จบลงทั้งนี้งานแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าวขายที่นั่งจนหมดทุกที่นั่ง และอาจมีผู้เข้าชมมากถึง 21,000 คน ซึ่ง ณ เวลาเกิดเหตุผู้เข้าชมกำลังเดินทางกลับออกจากอาคารและเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกของงานคอนเสิร์ตอยู่เป็นจำนวนมาก
สำนักงานตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ได้ทำการสืบสวนและประกาศให้เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการก่อการร้ายโดยใช้วิธีการระเบิดฆ่าตัวตาย[18] นับเป็นเหุตุโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดในสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่เหตุระเบิดในลอนดอน 7 กรกฎาคม 2548 และเป็นเหตุระเบิดในแมนเชสเตอร์ครั้งล่าสุดนับตั้งแต้ปี พ.ศ. 2539 โดยกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์หรือ ไออาร์เอ
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 23 คน รวมผู้ก่อเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 64 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี จำนวน 12 คนรวมอยู่ด้วย ด้านหน่วยรถพยาบาลนอร์ทเวสต์รายงานว่าได้นำรถพยาบาลของตนจำนวนกว่า 60 คัน เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ และได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 59 คน ส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวมอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ขณะที่อารีอานา กรานเด ไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุตัวผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายซัลมาน รามาดาน อะบีดี เป็นชาวบริติชอายุ 22 ปี ซึ่งทางฝ่ายความั่นคงได้ติดตามพฤติกรรมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซัลมานเกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ณ เมืองแมนเชสเตอร์ เป็นบุตรของครอบครัวผู้ลี้ภัยชาวลิเบียที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเมือง เขาเติบโตในเขตวัลลีย์เรนจ์และอาศัยอยู่ในย่านฟัลโลว์ฟีลด์ชานเมืองแมนเชสเตอร์ จากการสืบสวนทราบว่าซัลมานและพี่ชายมักจะไปประกอบพิธีทางศาสนาและบูชาพระเจ้าที่มัสยิดดิดส์เบอร์รีเป็นประจำ และกล่าวกันว่าบิดาของซัลมานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำมัสยิดเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอย่างดี[7][27] อย่างไรก็ตามผู้ดูแลมัสยิดปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้พร้อมกับบอกว่า "เราไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร เราไม่เคยพบเห็นเขามาก่อน" ซัลมานยังเคยทพงานที่ร้านขนมปังมาก่อน และเพื่อนของเขากล่าวว่าในอดีตซัลมานเป็นนักฟุตบอลที่มีทักษะและเคยเสพกัญชามาก่อน
ในอดีตซัลมานเคยเข้าไปพวกพันกับกลุ่มนักเลงก่อนที่จะกลายมาเป็นมุสลิมหัวรุนแรง มีรายงานว่าในปี พ.ศ. 2558 เขาเรียกร้องความสนใจให้กับตนเองด้วยการบ่นคร่ำครวญหลังจากฟังเทศน์เกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายและความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต
ในปี พ.ศ. 2557 ซัลมานเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยซัลฟอร์ดในสาขาการบริหารธุรกิจ ก่อนที่จะถอนตัวออกมาในภายหลัง ด้านครอบครัว บิดา-มารดาของเขาเกิดที่กรุงตริโปลีด้วยกันทั้งคู่ และหลังจากมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำของลิเบียถูกโค้นอำนาจลงในปี พ.ศ. 2554 ทั้งสองก็ได้ตัดสินใจย้ายกลับบ้านเกิด[27] ในขณะที่ซัลมานยังคงอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรต่อไป
หลังเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าการสืบสวนไปที่เคหะสถานในฟัลโลว์ฟีลด์ที่ซึ่งซัลมานเคยอาศัยอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว และจับกุมชายอายุ 23 ปีในเขตคอร์ลตัน-คัม-ฮารดี ทางตอนใต้ของเมืองแมนเชสเตอร์ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดดังกล่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ปฏิบัติการในพื้นที่ทางตอนใต้ของเมือง และบุกค้นที่อยู่อีกแห่งในวัลลีย์เรนจ์ด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังพยายามระบุให้ได้แน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุลงมือก่อการร้ายแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่ หรือเหตุดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ใหญ่กว่า
เวลาประมาณ 01.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการระเบิดวัตถุต้องสงสัยบริเวณลานสาธารณะคะทีดรัลการ์เดนส์[18] แต่ภายหลังการตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้เท่านั้น เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าแทรฟฟอร์ดเซ็นเตอร์และอาร์นเดลเซ็นเตอร์ที่มีการอพยพคนออกจากสถานที่ หลังมีรายงานพบวัตถุต้องสงสัยในบริเวณใกล้เคียง
ชาวเมืองและผู้ให้บริการรถแท็กซี่ในแมนเชสเตอร์หลายรายได้เสนอความช่วยเหลือด้วยบริการรับส่งฟรีหรือให้ที่พำนักชั่วคราวแก่ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตที่ติดอยู่ภายในผ่านทางทวิตเตอร์[16] ในขณะที่ความวุ่นวายหลังเหตุระเบิดยังทำให้ผู้ปกครองหลายรายพลัดแยกจากบุตรหลานของตน โรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงจึงได้เปิดรับเด็กจำนวนมากให้เข้าไปหลบภัยชั่วคราว และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานผู้ปกครองให้สามารถตามหาบุตรหลานของตนได้ที่โรงแรมดังกล่าว[33]
หลังเหตุระเบิด สถานีรถไฟแมนเชสเตอร์วิกตอเรียซึ่งบางส่วนตั้งอยู่ใต้อาคารแมนเชสเตอร์อะรีนา ได้อพยพผู้คนและปิดทำการสถานี ส่งผลให้บริการถไฟเข้าออกสถานีดังกล่าวถูกยกเลิกทั้งหมด และยังคงปิดทำการต่อเนื่องในวันถัดมา
ด้านรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์ได้กล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุดังกล่าวผ่านแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ พร้อมกล่าวข่มขู่ถึงเหตุโจมตีครั้งถัดไปว่าจะรุนแรงมากกว่าเดิม
หลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ โคบรา (Civil Contingencies Committee; COBRA) ร่วมกับเอียน ฮอปคินส์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรได้ประกาศยกระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายสู่ระดับ "วิกฤต" ซึ่งเป็นระดับสูงสุด[35] หลังจากนั้นจึงได้เริ่มปฏิบัติการเทมเพอเรอร์ (Operation Temperer) ขึ้นเป็นครั้งแรก มีการส่งนายทหารกว่า 5,000 นายเข้าประจำการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่บางส่วนของประเทศ
เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น "เหตุก่อการร้ายอันเลวร้ายมาก" และได้เรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ โคบรา (Civil Contingencies Committee; COBRA) ในเช้าวันอังคาร
แอนดี เบอร์นัม นายกเทศมนตรีเมืองแมนเชสเตอร์ กล่าวต่อเหตุการณ์ว่า "เป็นการยากที่เชื่อได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า และเป็นการยากที่จะกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้ว่า ในวันนี้เรารู้สึกตกใจ โกรธ และเสียใจอย่างไร... ผู้ก่อเหตุได้เลือกโจมตีและสังหารเด็ก ผู้เยาว์ และครอบครัวของพวกเขา ซึ่งนับได้ว่าเป็นการกระทำที่ชั่วช้าอย่างที่สุด" นายเบอร์นัมยังได้กล่าวสรรเสริญชาวเมืองและธุรกิจท้องถิ่นที่ได้ให้ความช่วยเหลือเหยื่อหลายรายอีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้ประกาศในภายหลังว่าจะจัดงานจุดเทียนไว้อาลัยบริเวณจัตุรัสอัลเบิร์ต เมืองแมนเชสเตอร์ ในช่วงค่ำของวันถัดมา[40]
เหตุระเบิดยังส่งผลให้พรรคการเมืองทุกพรรคงดการรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 ด้วยเช่นกัน
ด้านสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีพระราชดำรัสแสดงความ "เสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้ง" แก่ผู้เคราะห์ร้ายใน "เหตุการณ์อันเลวร้าย" ดังกล่าว
ผู้นำต่างประเทศจำนวนมากกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ ออสเตรเลีย[44] เบลเยียม ฝรั่งเศส กรีซ อิหร่าน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปาเลสไตน์ รัสเซีย สวีเดน สหรัฐ
อื่น ๆ[
อารีอานา กรานเด แสดงความคิดเห็นลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเธอรู้สึก "ใจสลาย" และกล่าวว่า "จากก้นบึ้งของหัวใจ ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมาก ฉันพูดไม่ออก"ขณะที่ศิลปินนักร้องอีกจำนวนมากก็ได้แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกันลงบนสื่อสังคม อาทิ เทย์เลอร์ สวิฟต์, บรูโน มาร์ส, แฮร์รี สไตล์, เคที เพร์รี, นิกกี มินาจ, ลอร์ด แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์ได้เฉลิมฉลองเหตุโจมตีดังกล่าวลงบนสื่อสังคมด้วยเช่นกัน